หลายคนนิยมรับประทานสลัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วผักสดมีแร่ธาตุและวิตามินหลายชนิดที่ร่างกายต้องการมีเส้นใยอาหารที่ดีต่อการขับถ่ายมีแคลอรี่ไม่สูงเกินไป วิธีรับประทานที่คุ้นเคยกันก็เพียงแค่ตักผักใส่จานราดน้ำสลัดแบบที่ชอบ ก็อร่อยได้อย่างสบายๆ แต่รู้หรือไม่ว่าสลัดในจานนั้นมีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้บริโภคควรใส่ใจไม่แพ้ความอร่อย
 
          ผักสลัดที่แช่น้ำไว้ หรือล้างทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้วต้องผึ่งให้สะเด็ดน้ำ หากไม่มีเวลาก็ต้องซับด้วยกระดาษนุ่มๆ เพราะเมื่อนำไปคลุกเคล้ากับน้ำสลัดแล้ว น้ำสลัดจะได้ไม่แฉะจนเกินไปและไม่ทำให้รสชาติน้ำสลัดเปลี่ยน
 
          การคลุกสลัดก็ควรใช้ช้อนและส้อมขนาดใหญ่ หรือช้อน-ส้อมสำหรับคลุกสลัดโดยเฉพาะ ถ้าไม่ทำด้วยไม้ ก็ควรเลือกชนิดที่ทำด้วยโลหะไม่มีคม เพราะจะไม่ทำให้ผักช้ำขณะคลุกในชามคลุกสลัด และต้องคลุกด้วยความเบามือ วิธีคลุกสลัดที่ถูกต้องคือค่อยๆ ตักผักขึ้นและค่อยๆปล่อยผักลงในชามคลุกสลัด
 
          สลัดทุกชนิดควรเสิร์ฟแบบเย็น แม้กระทั่งเนื้อสัตว์ที่ใช้รับประทานกับสลัด ต้องแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ นอกจากนี้ผักเนื้อแน่น หรือผักที่มีความหนาเช่น กะหล่ำปลี แครอท ควรรับประทานคู่กับสลัดน้ำใส ส่วนผักใบกรอบเช่นผักกาดแก้ว นิยมรับประทานคู่กับน้ำสลัดที่มีความข้น
 
          ส่วนน้ำสลัดชนิดVinaigrette หมายถึง น้ำสลัดที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกน้ำส้มสายชู (บางสูตรอาจเติมน้ำมะนาวแทน) ผสมให้เข้ากันกับเกลือ พริกไทย อาจเติมสมุนไพรที่ชอบ หรือมัสตาร์ดลงผสมด้วยก็ได้ ส่วนน้ำสลัดแบบ Mayonnaise เป็นน้ำสลัดที่มาจากการผสมกันของน้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชู (หรือน้ำมะนาว) ไข่แดง มีลักษณะเป็นครีมข้น หนึ่งช้อนโต๊ะพูนๆ ของน้ำสลัดชนิดนี้ให้พลังงาน 131 กิโลแคลอรี่
 
          การวิจัยของมหาวิทยาลัยโอไฮโอ พบว่า การรับประทานสลัดที่มีมะเขือเทศสดและอะโวคาโด ร่างกายจะดูดซึม เบต้า-แคโรทีนได้มากกว่าปกติถึง 14 เท่า ส่วนผักโขมจะให้โฟลเลตมากกว่าผักกาดหอม ที่สำคัญการที่ร่างกายได้รับโฟลเลต 300 ไมโครกรัม/วัน ช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้ถึง 20% เชียว
 
          สำหรับคนที่ชอบทานสลัดผลไม้ ที่จริงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานคู่กับน้ำสลัดใดๆ เลย เพราะผลไม้จะมีรสหวานนำอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการให้มีความชุ่มฉ่ำ เพิ่มขึ้น ควรเลือกน้ำสลัดที่มาจากผลไม้ในจานแทนสำหรับสลัดผลไม้ที่มีสับปะรดเป็นส่วนประกอบ ควรใส่สับปะรดให้น้อยกว่าผลไม้ชนิดอื่น เนื่องจากกลิ่นของสับปะรดอาจกลบกลิ่นหอมของผลไม้ชนิดอื่นๆ หมด
 
          หากทานสลัดในมื้อต่อไป คราวนี้คงได้ทั้งความอร่อย รสชาติที่แน่นอนมากขึ้นและคุณค่าทางโภชนาการที่อาจทำให้คุณติดใจจนเมนูสลัดกลายเป็นเมนูหลักที่คุณโปรดปรานทั้งการปรุงและการทานเลยทีเดียว
 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ