กำจัด 'เชื้อรา' หลังน้ำลด
บทความชิ้นพิเศษเกี่ยวกับ เชื้อเรา เอาใจทั้งคนรักษ์บ้าน และรักษ์สุขภาพ อันเนื่องมาจากเชื้อราที่เกิดขึ้นบนเฟอร์นิเจอร์ หรือข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน เพราะความอับชื้น หากปรากฏขึ้นมาก นอกจากจะไม่สวยงามแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย ราบางชนิดก็มีประโยชน์ใช้ทำยา ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น แต่ที่จะเขียนถึงต่อไปนี้แน่นอน มันเป็นราผู้ร้าย
รามีหลายประเภท (species) และแต่ละชนิดก็มีผลต่อสุขภาพแตกต่างกัน และที่แน่นอนคือเมื่อมีราเกิดขึ้นไม่ว่าส่วนใดของบ้าน ต้องกำจัดออก ไม่ต้องคิดเมตตาปราณีเป็นอันขาด
หลายคนอาจยังเข้าใจว่าเชื้อราก่อให้เกิดโรคเฉพาะผิวหนังภายนอก เช่น กลากเกลื้อน เชื้อราที่มือและเท้า เป็นต้น แต่ความจริงแล้วมันลุยเข้าไปในตัวเราได้มากกว่าที่คิด ตับ ไต ไส้พุง ระบบน้ำเหลือง มันเที่ยวไปรังควานซะทั่ว
เชื้อราเส้นเล็กๆ นี่ อันตรายกว่าที่คิดแน่นอน เพราะอาจส่งผลต่อการเกิดภูมิแพ้ และเกิดโรคหลายชนิด เช่น โรคปอดอักเสบ บางชนิด สามารถผลิตสารพิษที่เรียกว่า mycotoxin ซึ่งมีพิษมาก และถูกสงสัยว่าเป็นสารก่อมะเร็งด้วย มีผลต่อภูมิคุ้มกันบกพร่อง ราบางชนิด เช่น กลุ่มราบางชนิดที่ชอบขึ้นบนพรมที่ชื้น ทำให้ลำไส้ใหญ่อักเสบ มีเลือดออกภายใน เกิดแผลในกระเพาะ และอีกชนิดที่รู้จักกันดีคือกลุ่มเพนนิซิเลียมที่พบได้ทั่วไปในดิน อาหาร ขนมปัง ธัญพืช มักพบบนผนังฝาบ้าน พรม วอลเปเปอร์ที่ชื้น พวกนี้จะทำให้มีอาการหอบหืด โรคปอดอักเสบภูมิไวเกิน
ราพวกนี้บางชนิดเข้าปอดโดยการหายใจ ทำให้มีการติดเชื้อแพร่กระจายออกไปยังอวัยวะใกล้เคียง เช่น ตับ ม้าม กระดูก ตลอดจนเข้าไปในระบบน้ำเหลือง และตายได้ บางกลุ่มทำลายตับ ไต
เราได้รับเชื้อรา ทางไหนบ้าง?...เรารับเชื้อราได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่นจากการสัมผัส ทางจมูก โดยการหายใจ พบว่าการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการหายใจ
เนื่องจากเชื้อรามีอยู่ทั่วไปในอากาศโดยเฉพาะสปอร์ล่องลอยเที่ยวไปเรื่อยๆ ดังนั้นคนที่มีปัญหาเป็นโรคภูมิแพ้ควรหลีกเลี่ยงบริเวณเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อรา หรือบริเวณที่มีเชื้อราอยู่มากเช่น บริเวณที่มีฝุ่นละอองเยอะ บริเวณที่มีคนอยู่หนาแน่น
อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มบุคคลที่มีปัญหาระบบภูมิคุ้มกัน เช่น คนที่เป็นโรคเอดส์ โรคมะเร็ง ผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ที่กำลังมีการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์และเคมีบำบัด กลุ่มบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอด เช่นคนที่เป็นโรควัณโรค หรือ cystic fibrosis เป็นต้น
รู้อย่างนี้แล้วคงต้องหาเวลาตรวจส่วนต่างๆของบ้าน ว่ามีราแอบแฝงที่ส่วนใดบ้าง ห้องน้ำ ผ้าม่าน พรม หน้าต่าง เบาะนั่ง หมอน ผนังห้อง หวี เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เสื้อผ้า กระเป๋า...เพราะบางครั้งที่คนในบ้าน เด็กเล็ก ป่วยหอบหืด ภูมิแพ้ อาเจียน ไข้ โดยไม่มีสาเหตุ และนำไปสู่โรคต่างๆข้างต้นได้ แม้กระทั่งผู้ใหญ่หากร่างกายอ่อนแอ ก็จะมีอาการดังกล่าวเช่นกัน โดยอาจจะมาจากสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า 'รา' นี่เอง
วิธีทำความสะอาดบ้าน กำจัดเชื้อรา และสิ่งสกปรกหลังน้ำท่วม หากคุณต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วม ก็ต้องเจอกับความอับชื้น กลิ่นเหม็นอับ และเชื้อราที่ผุดขึ้นในบ้านไม่ว่าจะเป็นผนังบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านทั้งหลาย เราขอรวบรวมวิธีกำจัดเชื้อราในบ้าน มาฝากกัน สำหรับผู้ที่ประสบอุทกภัยได้จัดการกำจัดเชื้อราที่นำมาซึ่งเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ได้อย่างหมดจด และถูกวิธีตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
การกำจัดเชื้อราวิธีที่ 1 เมื่อต้องการกำจัดเชื้อราที่ขึ้นบนวัสดุที่เป็นพื้นแข็ง ให้ใช้น้ำสบู่ แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาขัดห้องน้ำล้าง และขัดให้ด้วยแปรงชนิดแข็งจนเชื้อราออกจนหมดจด จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหลายๆ รอบจนกว่าจะแน่ใจว่าสะอาด
การกำจัดเชื้อราวิธีที่ 2 เมื่อต้องการกำจัดเชื้อราบนวัสดุที่เป็นเนื้ออ่อน เช่น หนังสือ กระดาษมัน พลาสติก กล่อง ให้ใช้สำลีชุบฟอร์มาลีนเช็ด แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด จากนั้นนำไปวางไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และมีแสงแดดส่องถึงเล็กน้อย แล้วปล่อยให้แห้ง
การกำจัดเชื้อราวิธีที่ 3 เมื่อต้องการกำจัดเชื้อราบนพรม ฝ้า หรือที่นอน หาก มีเชื้อราเกิดขึ้น ให้นำไปทิ้งจะปลอดภัยที่สุด เพราะวัสดุที่มีรูอย่างพรม ฝ้า และที่นอนนี้ เป็นวัสดุที่ล้างเชื้อราออกได้ยากมาก และแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถล้างออกได้หมดจด 100%
การกำจัดเชื้อราวิธีที่ 4 อย่าทาสีหรือแลคเกอร์ทับในบริเว ณที่เกิดเชื้อรา ให้ล้างเชื้อราออกให้สะอาดหมดจดก่อน จากนั้นค่อยเริ่มทาสีหรือแลคเกอร์
การกำจัดเชื้อราวิธีที่ 5 ในกรณีที่เชื้อราผุดให้เห็นในข้าวของเครื่องใช้ประเภทเครื่องหนัง ให้ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดหลาย ๆ ครั้ง จนแน่ใจว่าสะอาด จากนั้นเช็ดครั้งสุดท้ายด้วยน้ำ สะอาด น้ำส้มสายชูจะช่วยกำจัดเชื้อราได้เป็นอย่างดี
การกำจัดเชื้อราวิธีที่ 6 เมื่อต้องการกำจัดเชื้อราบนเฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ที่เป็นไม้เนื้ออ่อน โดยปกติจะไม่เป็นอะไรมากนักหากนำมาล้างทำความสะอาดภายใน 24-48 ชั่วโมงที่พบเชื้อ แต่ในกรณีที่น้ำท่วมแล้วปล่อยบ้ านไว้นานเป็นเดือน ๆ ขอแนะนำให้ทิ้งข้าวของเครื่องใช้ที่ทำด้วยไม้เนื้ออ่อนเหล่านั้ นไปอย่างไม่ต้องเสียดาย เพราะอาจจะฟักตัวเป็นเชื้อราที่อันตรายมากขึ้นได้
การกำจัดเชื้อราวิธีที่ 7 ควรย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ที่มีราขึ้น (ที่กำจัดเชื้อรา และทำความสะอาดเสร็จแล้ว) ไปอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือที่แสงแดดส่องถึงสักระยะหนึ่ง คือประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วหมั่นคอยตรวจสอบว่าหลังจากทำความสะอาดแล้วยังมีเชื้อราขึ้นอยู่อีกหรือไม่
การกำจัดเชื้อราวิธีที่ 8 เมื่อต้องการกำจัดเชื้อราบนวอลเปเปอร์ ใช้กรดซาลิไซลิด ผสมกับแอลกอฮอล์ในอัตราส่วน 1:5 จากนั้นนำผ้ามาชุบไปเช็ดวอลเปเปอร์ซ้ำ ๆ ประมาณ 2 รอบ แต่ถ้าหากว่ามีเชื้อราอยู่มาก แนะนำให้รื้อทิ้งแล้วเปลี่ยนวอลเปเปอร์ใหม่จะดีกว่า
การกำจัดเชื้อราวิธีที่ 9 เมื่อต้องการกำจัดเชื้อราบนเสื้อผ้า ผ้าม่าน และผ้าห่ม หากพบเชื้อรา สามารถฆ่าเชื้อเบื้องต้นได้โดยใช้น้ำร้อน จากนั้นขยี้แล้วซักให้สะอาดหลาย ๆ ครั้ง และตากในที่ที่มีแสงแดดเท่านั้น เพื่อเป็นการฆ่าเชื้ออีกที
การกำจัดเชื้อราวิธีที่ 10 ควรงดกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดความชื้นภายในบ้าน แต่ควรเปิดให้อากาศภายนอกได้ระบายเข้ามาบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันแดดจัด แม้ว่าจะทำให้ร้อนอบอ้าวไปบ้าง แต่แสงแดดจะช่วยฆ่าเชื้อราได้ดีเลยทีเดียว
รับรองว่าถ้าหากทำตามขั้นตอนที่แนะนำไว้ข้างต้นแล้ว พอพ้นช่วง 2-3 สัปดาห์หลังน้ำท่วมเมื่อไหร่ ก็จะได้บ้านอบอุ่นและปลอดภัยปลอดเชื้อราและเชื้อโรคหลังเก่าของคุณคืนมาอย่างแน่นอน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก kapook.com
และ http://www.prd.go.th/ewt_news.php?nid=5462&filename=index