10 วิธีแต่งบ้านแสนสุข
การแต่งบ้านไม่ใช่เรื่องของกฎเกณฑ์ บางครั้งอยากทำตามใจตัวเองบ้างก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะมันไม่มีกฎที่ตายตัว ห้องต่างๆ ควรเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของผู้อยู่อาศัย ยิ่งถ้ามีความมันส์อยู่ในตัว ลองทำตาม 10 ข้อเด็ดๆ บวกกับไอเดียแหวกแนว ของคุณแล้วจะรู้ว่ากฎเกณฑ์ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
1.ความต่างที่ลงตัว
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในการตกแต่งห้องใดห้องหนึ่งภายในบ้านนั้นคือ การผสมผสานเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
โดยคุณอาจจะเลือกแต่งห้องนั่งเล่นเพราะไม่ต้องคิดอะไรมาก มันเป็นห้องที่แต่งสนุก เป็นพื้นที่ๆ ทุกคนในครอบครัวได้ใช้
ร่วมกัน รวมถึงเป็นแหล่งชุมนุมเพื่อนฝูงผู้มาเยือน โดยการมิกซ์แอนด์แมทในการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีความสูงต่ำต่างระดับ
แล้วจับมันมาเป็นคู่ซี้วางชิดติดกัน เช่น หาอาร์มแชร์ขนาดพอเหมาะวางจับคู่กับโต็ะกลางที่ขนาดเตี้ยกว่า ส่วนเก้าอี้ตัวอื่นๆ
ก็พามันมาจากยุค 70 บ้าง 80 บ้าง กระจกบานใหญ่ก็ย้อนมาเลยจากยุค 50 หรือขอบกระจกที่เป็นแนววิคทอเรีย
เท่านี้ห้องรับแขกก็มีสเน่ห์ไม่เบาเลยทีเดียว
2. สีสันสุดเลิศ
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ขอให้จำไว้ว่าสีสุดโปรดนั่นแหละบ่งบอกความเป็นตัวคุณที่สุด ไม่จำเป็นว่าตอนนี้คุณกำลัง
แต่งห้องอะไรอยู่แล้วต้องไปตามอารมณ์ของห้องนั้น เช่น หากกำลังตกแต่งห้องนอนแล้วต้องมาคิดว่า อุ้ย ห้องนอนต้อง
สีอบอุ่นถึงจะนอนหลับสบาย ให้ลืมความคิดพวกนี้ไปซะเพราะมันเชยสิ้นดี คุณชอบสีอะไรนั่นแหละลุยเลย หากสาวเจ้า
แสนหลงไหลสีหวานๆ อย่างม่วงลาแวนเดอร์ก็ให้ห้องนอนนั้นอบอวนไปด้วยความหอมหวานของเจ้าลาแวนเดอร์ให้เต็มที่
โดยทาสีอ่อนๆ ที่ผนัง แล้วหาปลอกหมอนกับผ้าปูเตียงที่เป็นลายดอกไม้เล็กๆ สีโทนเดียวกันอาจเข้มกว่าเล็กน้อย
คุณก็หลับฝันดีในมวลพฤกษาได้ทั้งคืน
3.ของสุดรักในมุมโปรด
เมื่อคุณตกแต่งบ้านใหม่หรือย้ายไปอยู่ในคอนโดสุดหรู แน่นอนว่าต้องมีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดบ้างแหละน่า ไม่ว่าจะเป็น
เก้าอี้ที่ไว้นั่งจิบกาแฟตอนเช้า หรือจะเป็นโคมไฟตั้งพื้นก้านยาวเอาไว้ส่องยามชิวกับหนังสือเล่มโปรด ทำอย่างไรก็ทิ้งมัน
ไม่ลงต้องเก็บมันไว้ เชื่อเถอะว่ามันจะดูดีในพื้นที่ใหม่ ลองหมุนซ้ายโยกขวาเปลี่ยนทิศทางแล้วหาคู่ซี้ให้มันใหม่
คุณจะยิ่งรักและหวงมันมากกว่าเดิม
4. พลังสีขาว
สีขาวเป็นสีที่จะสะท้อนความสว่างให้กับห้องได้ดีที่สุดไม่ว่าห้องนั้นแสงจะมากหรือน้อย การสรรหาเฟอร์นิเจอร์ก็แสนง่าย
มันดูดีและเข้ากันได้หมด แต่ถ้าจะให้ดีก็น่าจะมีสักห้องที่บ่งบอกถึงความอนามัยและความสะอาด คงหนีไม่พ้นห้องทานอาหาร
โดยทาสีขาวทั้งห้องแล้วหาโต๊ะกินข้าวที่ทำจากไม้เชอร์รี่สักชุด พ่วงด้วยแชงเดอร์เรียอีกช่อห้อยระย้าไว้กลางโต๊ะ
มันจะเป็นห้องดินเนอร์ที่สุดคลาสสิคแถมยังประหยัดไฟด้วย เพราะผนังสีขาวจะให้แสงสะท้อนจากโคมไฟเท่านี้ก็พอ
5.เฟอร์นิเจอร์โค้งมน
รูปทรงกลมของโต๊ะกาแฟ รวมถึงเก้าอี้ที่มีมุมโค้งมนจะให้ความรู้สึกเชิญชวนและดูอ่อนโยนลดความแข็งให้ห้องรับแขก
ได้เป็นอย่างดีย ไม่ใช่ว่าอะไรๆ ก็เลือกแต่เหลี่ยมๆ มันจะทำให้ดูแข็งเกินไป เดินไปทางไหนก็ดูคมไปหมด ลองเปลี่ยนดูบ้าง
มันจะทำให้บ้านน่ารักและน่าอยู่ขึ้นเป็นกอง
6.โซฟาแสนสบาย
หลีกเลี่ยงการใช้เก้าอี้ที่มีเบาะหนาๆ สีเข้ม หรือที่มีลายยุ่งเหยิง เพราะมันจะทำให้ห้องดูอึดอัดเกินไป ควรเลือกโซฟาสีอ่อน
เพราะมันจะให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายและน่าเอนกายกว่ากันเยอะ
7. ประตูหรรษา
เติมความสดใสให้กับบานประตูหรือปูพรมสีสดบนทางเดินเข้าบ้าน เพื่อสร้างความประทับใจแรกให้กับแขกผู้มาเยือน
และมันจะให้ความรู้สึกสนุก เพิ่มความอยากรู้อยากเห็นว่าถ้าเดินต่อไปแล้วข้างในจะเป็นอย่างไร คราวนี้คุณก็ได้อวด
ส่วนที่เหลือของบ้านแล้ว
8.เติมความแปลก
บางครั้งไอเดียแปลกๆ เช่น ยกจักยานเก่าหรือของเล่นสะสมมาฉาบปูนเก็บมันไว้ข้างฝาผนังสร้างพิพิธภัณฑ์ซะเลย
หรือไอเดียอื่นที่มีก็งัดมันออกมาโชว์เพื่อลดความขรึมและทำให้ไม่ดูเป็นบ้านที่น่าเบื่อจนกินไป แถมยังแอบสร้าง
รอยยิ้มได้ทุกครั้งที่เหลือบตามอง
9. ห้องเล็กจัดหนัก
ออกจะดูแปลกที่ห้องเล็กดันให้จัดหนัก แต่มันเป็นไอเดียที่เพิ่มสเน่ห์ให้บ้านคุณ หากห้องเล็กจัดเล็กมันก็จืดไปหน่อย
ลองหาวอลเปเปอร์ลายย้อนยุคสักผืน เพราะลายย้อนยุคนอกจากมีสเน่ห์ในตัวแล้วลายมันก็ใหญ่ด้วย มันจะทำให้
ดูกว้างขึ้นอีกหน่อย จัดไปเลยฝั่งใดฝั่งหนึ่งของผนังก็พอ แถมเก้าอี้วินเทจอีกสักสองตัวเท่านี้ก็มีมุมรับแขก
แบบลำลองแล้ว
10. งัดข้อความงามให้คมชัด
การวางติดกันของวัสดุที่มีความต่างอย่างเช่น ที่วางขวดไวน์หรือที่แขวนช้อนที่ทำจากไม้เชอร์รี่บนบาร์หินอ่อน
ในห้องครัว จะช่วยสร้างความรู้สึกให้ห้องครัวดูน่าสนใจและสร้างจุดเด่นให้กับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้น เติมอีกหน่อย
ด้วยโคมไฟสีแดงที่มีดีไซน์ เพียงเท่านี้เจ้าสามเกลอต่างสายพันธุ์ก็เข้ากันและเกิดความเด่นในตัวของมันเอง
การแต่งบ้านไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้มีใจรักและกล้าที่จะลงมือ มันจะบ่งบอกความเป็นตัวคุณและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้เวลาอยู่กับมัน
ที่มาข้อมูล : www.e-magazine.info
