คลิป...พระซ้อมเต้นโคโยตี้





  • มติสงฆ์สั่งทำทัณฑ์บน พระเต้นโคโยตี้

  •  





  • พระมหาใกล้รุ่ง รุจิธรรมโม


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ขอขขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

                ทำเอาวงการศาสนาต้องมัวหมองอีกแล้ว สำหรับพระสงฆ์บางรูปที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ต่อการเป็นผู้ถ่ายทอดหลักธรรมคำสอนของศาสนา เพราะล่าสุดมีพระสงฆ์จากกลุ่มรักศาสนารูปหนึ่งได้นำคลิปวิดีโอที่ได้บันทึกภาพพระสงฆ์รูปหนึ่งกำลังเต้นโคโยตี้อย่างเมามันส์ โดยไม่แคร์สายตาชาวบ้านในละแวกดังกล่าวเลย

                ทั้งนี้ ในคลิปดังกล่าว ได้บันทึกภาพของพระสงฆ์รูปหนึ่ง สืบทราบชื่อว่า พระมหาใกล้รุ่ง รุจิธรรมโม พระเลขาวัดบางบัว ยืนโยกย้ายส่ายสะโพกคล้ายเต้นโคโยตี้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ก้าวขึ้นเรือมาเต้นอีกครั้ง โดยชูมือสองมือขึ้น  พร้อมกับค่อย ๆ ส่ายเอวไปมา ซึ่งในเหตุการณ์นั้นมีพระสงฆ์รูปอื่นหัวเราะอย่างชอบใจ

               นอกจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ในคลิปยังได้บันทึกพฤติกรรมของพระสงฆ์อีกรูป ที่กำลังเหวี่ยงแหจับปลาในช่วงน้ำท่วม ซึ่งชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้เล่าให้ฟังว่า พระสงฆ์รูปนี้มีสีกามาขอเข้าพบบ่อย ๆ ทางพระสงฆ์กลุ่มรักศาสนาจึงได้แอบบันทึกภาพเอาไว้ ซึ่งเป็นภาพขณะที่หญิงสาวขึ้นมาคุยกับพระสงฆ์บนระเบียงชั้นสอง จากนั้นก็เข้าไปในกุฏิ กินเวลานานกว่าจะออกมา

              ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ในคลิปดังกล่าว ยังบันทึกภาพขณะที่พระสงฆ์กินเลี้ยงโต๊ะจีน จัดฉลองพร้อมเปิดสุรานำมาดื่มกันในวัด ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมา

             อย่างไรก็ดี พระสงฆ์กลุ่มรักศาสนา กล่าวว่า ตนเคยเป็นพระสงฆ์สังกัดวัดดังกล่าว แต่ถูกปลดออกมาทั้งคณะ เหตุเพราะไปตักเตือนถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์รูปอื่น ๆ และพอตนได้แจ้งเรื่องไปยังเจ้าคณะที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล อีกทั้งยังเคยแจ้งไปยังเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว แต่เรื่องก็ยังเงียบเฉย  ตนจึงคิดว่า ควรมอบคลิปนี้ให้กับผู้สื่อข่าวคงจะดีกว่า

            พระสงฆ์กลุ่มรักศาสนา กล่าวอีกว่า สำหรับพระสงฆ์ที่เต้นโคโยตี้นั้น เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์บางรูป  ผ่านรายการข่าวสามมิติ แต่ทว่า ทำไมตัวเองถึงกลับทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเช่นนั้นเอง

             ล่าสุด ช่วงสายของวันนี้ (11 มกราคม) ทางด้านคณะสงฆ์พระผู้ใหญ่วัดบางบัว ได้ออกมติลงโทษ ด้วยการทำทัณฑ์บน และว่ากล่าวตักเตือน พร้อมพักงาน เพราะเห็นว่าเป็นความผิดทางวินัยเพียงเล็กน้อย ส่วนทางพระมหาใกล้รุ่ง กล่าวว่า ตนเสียใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ตนทำไปด้วยความคึกคะนอง และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ทั้งนี้ตนไม่ได้ตั้งใจจะสร้างความเสื่อมเสียให้กับทางวัด เพียงแค่ต้องการคลายเครียดในช่วงน้ำท่วมเท่านั้นเอง และจากนี้ต่อไปจะไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้อีก

             ส่วนทางด้านชาวบ้านได้พากันวิพากษ์วิจารณ์ว่า พระมหาใกล้รุ่งเป็นพระที่มีนิสัยตุ้งติ้ง แต่เป็นพระนักพัฒนาที่สร้างความเจริญให้กับวัด และชอบช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ คงไม่เป็นเรื่องราวใหญ่โตจนเสื่อมเสียทั้งศาสนา

  • รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

    ติชม


    ต้องการให้คะแนนบทความนี้่ ?

    สร้างโดย :


    pattama

    สถานะ : ผู้ใช้ทั่วไป
    คอมพิวเตอร์ธุรกิจ