ปทุมธานี-จับแล้วตำรวจอุ้มรีด

รวบแล้วตำรวจก่อคดีอุ้มรีดเงินชาวบ้านแลกกับคดีจับยาเสพติด ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ระบุถูกเจ้าทุกข์ปรักปรำ ขณะที่ ผกก.ปทุมธานี สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

โดยเมื่อเวลา 23.30 น.วานนี้ (1 ก.พ.) ศูนย์วิทยุปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเหตุผู้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกชาวบ้านที่ผ่านไปมาตรวจค้นหน้าโรงพยาบาลภัทรธนบุรี ริมถนนพหลโยธินขาเข้ารังสิต ม.6 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จึงแจ้งให้ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ มิตรประสาท สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.คลองหลวง ทราบชื่อ ส.ต.อ.สมยศ ผิวขำ อายุ 38 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และพึ่งจะย้ายมาช่วยที่ สภ.คลองหลวง และได้ลาป่วยอยู่ในขณะนี้พกพาอาวุธปืนขนาด.38 พร้อมกระสุน และนายกล้าณรงค์ ยุทธเมฆ อายุ 36 ปี พกพาอาวุธมีดพก ขณะที่นั่งอยู่ในรถกระบะฟอร์ดสีเขียวหมายเลขทะเบียน บต 6977 พระนครศรีอยุธยา พร้อมเงินของกลาง 4,500 บาทและผู้เสียหายทราบชื่อนายเอ นามสมมุติ อายุ 17 ปี นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.คลองหลวง เพื่อสอบสวนสาเหตุที่เกิดขึ้น
 

ต่อมา พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช รอง ผบก.ปทุมธานี ได้มาสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีเจ้าทุกข์หลายรายมาชี้ตัว ส.ต.อ.สมยศ ผิวขำ พร้อมพวก ซึ่งรายล่าสุด คือ นายรอมาดี อาดำ อายุ 56 ปี ได้มาชี้ตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนเคยจับหลานตนเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 40,000 บาทแล้วต่อรองลดลงเหลือ 3,000 บาท เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ก็เลยเกิดความสงสัยว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่เพราะช่วงนั้นชายทั้งสองคนนั่งรถแท็กชี่มารับเงิน ซึ่งได้แจ้งความและลงประจำวันไว้ และเมื่อรู้ข่าวจึงมาดูตัวพบว่าเป็นชายที่จับหลานไปเรียกค่าไถ่จริง
 

อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ปฏิเสธอ้างว่าถูกเจ้าทุกข์ปรักปรำ พร้อมกันนี้ พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง ได้ทำเรื่องให้ ส.ต.อ.สมยศ ผิวขำ ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมทั้งสั่งให้ขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป.

รวบแล้วตำรวจก่อคดีอุ้มรีดเงินชาวบ้านแลกกับคดีจับยาเสพติด ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ระบุถูกเจ้าทุกข์ปรักปรำ ขณะที่ ผกก.ปทุมธานี สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

โดยเมื่อเวลา 23.30 น.วานนี้ (1 ก.พ.) ศูนย์วิทยุปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเหตุผู้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกชาวบ้านที่ผ่านไปมาตรวจค้นหน้าโรงพยาบาลภัทรธนบุรี ริมถนนพหลโยธินขาเข้ารังสิต ม.6 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จึงแจ้งให้ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ มิตรประสาท สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.คลองหลวง ทราบชื่อ ส.ต.อ.สมยศ ผิวขำ อายุ 38 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และพึ่งจะย้ายมาช่วยที่ สภ.คลองหลวง และได้ลาป่วยอยู่ในขณะนี้พกพาอาวุธปืนขนาด.38 พร้อมกระสุน และนายกล้าณรงค์ ยุทธเมฆ อายุ 36 ปี พกพาอาวุธมีดพก ขณะที่นั่งอยู่ในรถกระบะฟอร์ดสีเขียวหมายเลขทะเบียน บต 6977 พระนครศรีอยุธยา พร้อมเงินของกลาง 4,500 บาทและผู้เสียหายทราบชื่อนายเอ นามสมมุติ อายุ 17 ปี นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.คลองหลวง เพื่อสอบสวนสาเหตุที่เกิดขึ้น
 

ต่อมา พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช รอง ผบก.ปทุมธานี ได้มาสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีเจ้าทุกข์หลายรายมาชี้ตัว ส.ต.อ.สมยศ ผิวขำ พร้อมพวก ซึ่งรายล่าสุด คือ นายรอมาดี อาดำ อายุ 56 ปี ได้มาชี้ตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนเคยจับหลานตนเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 40,000 บาทแล้วต่อรองลดลงเหลือ 3,000 บาท เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ก็เลยเกิดความสงสัยว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่เพราะช่วงนั้นชายทั้งสองคนนั่งรถแท็กชี่มารับเงิน ซึ่งได้แจ้งความและลงประจำวันไว้ และเมื่อรู้ข่าวจึงมาดูตัวพบว่าเป็นชายที่จับหลานไปเรียกค่าไถ่จริง

อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ปฏิเสธอ้างว่าถูกเจ้าทุกข์ปรักปรำ พร้อมกันนี้ พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง ได้ทำเรื่องให้ ส.ต.อ.สมยศ ผิวขำ ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมทั้งสั่งให้ขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป.

Shae 

รูปที่เกี่ยวข้อง

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ติชม


ต้องการให้คะแนนบทความนี้่ ?

สร้างโดย :


Rossukon

สถานะ : ผู้ใช้ทั่วไป
คอมพิวเตอร์ธุรกิจ