8 เหตุผลของสัตว์ที่ชื่อว่า 'กระต่าย' กับการ 'กิน' ลูกตัวเอง ?

*** 8 เหตุผลของสัตว์ที่ชื่อว่า 'กระต่าย' กับการกินลูกตัวเอง ***



**แม่กระต่ายขาดแคลเซี่ยม เนื่องจากลูกเยอะมาก ร่างกายอ่อนเพลีย จึงกินรกแล้วอาจจะกินติดลูกของตัวเองเข้าไปด้วย

>>เป็นไปได้ถ้าแม่กระต่ายขาดแคลเซียม เพราะมี ลูกจำนวนมาก แม่กระต่ายจะกิน 'รก'ของตนเข้าไปซึ่งทำให้บางครั้งการที่แม่กระต่ายกิน รก จะมีลูกติดเข้าไปด้วย




**ลูกกระตายตัวนั้นไม่แข็งแรง หรือพิการ แม่กระต่ายจะกินลูกเข้าไป ถือเป็นสัญชาติญาณ

>> โดยส่วนใหญ่เกิดจากการที่ แม่กระต่ายอายุยังน้อย จึงทำให้ลูกที่เกิดมา ไม่สมบูรณ์ พิการ ไม่แข็งแรงแม่กระต่ายอาจจะ กินลูกของตัวเองได้ หรือ ถึงลูกๆเหล่านั้นเกิดมาแข็งแรงแม่กระต่ายก็จะไม่ค่อยเลี้ยงลูกเพราะเลี้ยงลูกไม่เป็น





**เกิดจากความเครียด เช่น อยู่ร่วมกับตัวผู้ขณะที่คลอดลูก และตัวผู้ขึ้นผสมพันธุ์ไม่หยุดขณะที่มีลูก

>>อีกหนึ่งที่ทำให้แม่กระต่าย กัด หรือ กิน ลูกของตัวเอง เนื่องจากเกิดจาก ความเครียด โดยมีตัวผู้อยู่
ด้วยขณะที่คลอด และ ตัวผู้จ้องจะเข้าไปผสมพันธุ์กับแม่กระต่ายอย่างเดียว กรณีเช่นนี้ในบางครั้งเมื่อแม่กระต่ายเครียดมากๆจะกัด หรือ กิน ลูกตัวเองให้ตายเลยในขณะที่เพิ่งคลอด


แต่ในบางครั้ง เมื่ออยู่ร่วมกันกับตัวผู้ในขณะที่คลอด แม้ตัวผู้ไม่มีอากับกิริยาหรืออาการใดๆที่จะผสมพันธุ์กับแม่กระต่าย ก็ใช่ว่าแม่กระต่ายจะไม่เครียด เพราะแม่กระต่ายจะเครียดเสมอเมื่ออยู่ร่วมกับตัวผู้ใน
ขณะที่ตัวเองมีลูก เพราะฉนั้น จึงเห็นได้ว่า กระต่ายตัวผู้ มีส่วนอย่างมากที่ทำให้แม่กระต่าย 'เครียด'








**กินลูกตัวเองเพราะขาดโปรตีน เนื่องจากตอนท้องได้รับอาหารบำรุงที่มีโปรตีนน้อย

>>การขาดโปรตีนก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เกิดจากผู้เลี้ยงไม่ได้บำรุงแม่กระต่ายขณะที่มีครรภ์เท่าที่ควร แม่กระต่ายอาจจะกินลูกของตัวเองเพื่อให้ได้รับโปรตีนในปริมาณที่มากขึ้น





**รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยจากสัตว์อื่น(รวมถึงมนุษย์) จึงทำให้เกิดภาวะเครียด และ กินลูกตัวเอง

>>ถือเป็นสัญชาติญาณของสัตว์ผู้ถูกล่า ที่ชื่อว่า 'กระต่าย' เลย เพราะเมื่อขณะที่แม่กระต่ายอยู่ใน
สถานการณ์ หรือ ในภาวะที่ไม่ปลอดภัย จากสัตว์อื่น โดยที่แม่กระต่ายจะคิดเสมอว่าสัตว์เหล่านี้จะมาทำร้ายตนและลูกๆ กรณีเช่นนี้ แม่กระต่ายจะกิน ลูกตัวเองภายในทันที เพื่อเป็นการไม่ให้สัตว์อื่นมาทำร้ายลูกของตัวเองได้

สัตว์อื่น ที่ว่านั้นยังหมายความถึง สัตว์ที่เรียกว่า 'มนุษย์' ด้วย เพราะในบางครั้งเมื่อแม่ กระต่ายแปลกกลิ่นจาก มนุษย์ ที่อยู่บริเวณ ใกล้ๆกับลูกตัวเอง จะทำให้แม่กระต่ายรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยและเป็นเหตุให้ กัด หรือ กิน ลูกของตัวเองได้





**'การกินลูก' เป็นนิสัยประจำตัวของแม่กระต่ายตัวนั้น

>>แม่กระต่ายตัวนั้น ไม่ว่าจะคลอดลูกๆออกมากี่ครอกก็ตาม แม่กระต่ายก็จะกินลูกๆของตัวเองหมด เหตุ
เพราะ เป็นนิสัยส่วนตัวของแม่กระต่ายที่ยากจะแก้ไขได้ และ ยากที่จะป้องกันได้ เพราะ เมื่อแม่กระต่าย
คลอดลูกออกมาก็จะกินลูกของตนในทันทีทันใดนั้นเลย แต่นิสัยที่ว่านี้ ไม่ค่อยเกิดกับแม่กระต่าย หรือ มีตัวอย่างให้เห็นมากเท่าใดนัก


วิธีสังเกตุ/ป้องกัน ควรที่จะให้แม่กระต่ายตัวนั้นมีลูกสัก 3 ครอก ถ้ายังกินลูกของตัวเองหมดทุกครอก ให้พึงนึกได้เลย ว่า อาการเหล่านี้เป็นนิสัยส่วนตัวของ 'แม่กระต่าย' และ ควรที่จะ'หยุด' การมีลูกของแม่
กระต่ายตัวนี้ไว้ครอกที่ 3 เท่านั้น ไม่ควรผสมพันธุ์กับแม่กระต่ายตัวนั้นอีก


อีกวิธีหนึ่งคือ ควรตรวจตราคอยดูและสังเกตุแม่กระต่ายตลอดเวลา เมื่อคลอด ให้เรารีบนำลูกกระต่ายออกมาเลี้ยงก่อนที่แม่กระต่ายจะกิน






**เมื่อลูกกระต่ายเป็น 'แผล' มีเลือดออกมากๆ แม่กระต่ายเมื่อได้กลิ่นคาวเลือด จะกินลูกตัวเอง

>>การที่ลูกกระต่ายมีแผล และ มีกลิ่นคาวเลือดออกมาในปริมาณที่มาก นั่น หมายถึงสัญญาณที่แสดงให้
แม่กระต่ายเห็นว่า ลูก ของตัวเองอยู่ในภาวะที่ 'ไม่ปลอดภัย' จึงมีผลให้แม่กระต่าย กัดลูกตัวดังกล่าวให้
ตาย หรือ กินลูกน้อยตัวนั้นเข้าไปได้




**พ่อกระต่าย จะกัดลูกของตัวเอง ให้ตาย เพื่อที่จะเข้าไปผสมพันธุ์กับแม่กระต่ายได้อย่างสะดวก

>>เมื่อกระต่ายตัวเมียคลอดลูก ควร ที่จะแยกตัวผู้ ออกมาอยู่ในบริเวณอื่น ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงร่วม
กันกับตัวผู้ เพราะจะทำให้กระต่ายตัวผู้นั้น กัด ลูกของตนจนตายได้เพื่อที่จะเข้าไปผสมพันธุ์ กับ แม่กระต่ายได้อย่างสะดวกขึ้น





**เมื่อเพื่อนสมาชิกได้อ่านบทความนี้แล้ว 'คิดว่าอย่างไรครับ' โดยส่วนตัวผมคิดว่า กระต่ายที่เราเลี้ยง

ซึ่งมี รูปร่าง หน้าตา น่ารัก จิ้มลิ้ม แต่ อีกมุมหนึ่งของกระต่าย ก็สามารถทำให้เราประหลาดใจได้เช่นกัน

'การกินลูก' สามารถออกมาในรูปแบบหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็น ความเครียด/สัญชาติญาณในการปกป้อง

/นิสัยของกระต่ายตัวนั้น/หรือแม้กระทั่งเกิดจาก การไม่เอาใจใส่บำรุงบ่มดูของผู้เลี้ยงเอง ผมว่าสิ่งเหล่านี้

สามารถเกิดขึ้นได้กับกระต่ายตัวใดตัวหนึ่ง แต่ สิ่งเหล่านี้ผู้เลี้ยงทุกคนก็สามารถตรวจตราดูแล และ

ป้องกันเพื่อที่จะไม่ให้เกิดได้เช่นกัน



***หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ติชม


ต้องการให้คะแนนบทความนี้่ ?

สร้างโดย :


Ponpayuha

สถานะ : ผู้ใช้ทั่วไป
คอมพิวเตอร์ธุรกิจ